วันพุธที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2560

รู้จักกันหน่อยน๊า...Matoom

ชื่อ  นางสาวฐิติรัตน์  โมทะจิตร ชื่อเล่น มะตูม
อายุ 27 ปี 
การศึกษา ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 
คณะ การบัญชีและการจัดการ สาขาวิชา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ บธ.บ.

>ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะฝัน และทำตามฝัน<



หนึ่งสมอง สองมือ ต้องไขว่คว้า

เมื่อมีปัญหา ขึ้นมา ต้องแก้ไข
เหนื่อยและท้อ ขอพักหน่อย ไม่เป็นไร
ให้มีแรง ลุกขึ้นใหม่ ได้อีกครา
– – – – –
คนเราก็เป็น แบบนี้ กันทั้งนั้น
มีสุขสันต์ โศกเศร้า เท่ากันแหละหนา
ความสำเร็จ แต่ละครั้ง กว่าจะได้มา
ต้องแลกด้วย เหงื่อและน้ำตา แทบทุกคน
– – – – –
ขอเป็นอีก หนึ่งแรงใจ ให้คนสู้
ให้เธอรู้ ว่าเธอ ยังมีหวัง
ขอส่งแรงใจ ให้เธอ มีแรงพลัง
ไปยังฝั่งฝัน ที่เธอวาดหวัง และตั้งใจ


วิธีการ แปลงเลขฐานสิบเป็นเลขฐานสอง วิธ๊ที่ 2

การคำนวณจากเลขสองยกกำลังโดยเรียงจากมากไปน้อย และการลบ

1 เริ่มต้นด้วยการทำตาราง. เขียนเลขสองยกกำลังใน “ตารางฐานสอง” จากขวาไปซ้าย 
เริ่มจาก 20 ซึ่งมีค่าตามการคำนวณเป็น "1" ค่อยๆ เพิ่มเลขชี้กำลังทีละหนึ่งในเลขสองยกกำลังแต่ละชุด เขียนลิสต์ตัวเลขไปเรื่อยๆ จนถึงเลขที่ใกล้กับเลขฐานสิบที่คุณต้องการแปลง สำหรับตัวอย่างนี้ เราจะมาแปลงเลขฐานสิบ 15610 ให้เป็นเลขฐานสอง
2 หาเลขสองยกกำลังที่มีค่ามากที่สุด. เลือกเลขสองยกกำลังที่มีค่ามากที่สุดและไม่เกินเลขที่ต้องการแปลง 128 เป็นเลขสองยกกำลังที่ไม่เกิน และมีค่าใกล้เคียงกับ 156 ที่สุด ดังนั้น ให้เขียนเลข 1 ไว้ใต้ช่องนี้ของตารางที่คุณเขียนไว้ เพื่อให้เป็นเลขฐานสองตัวแหน่งแรกสุดทางซ้ายมือ หลังจากนั้น ให้เอาตัวเลขที่ตั้งไว้ในตอนแรกลบด้วย 128 แล้วจะได้ 28
3 ขั้นต่อไปคือเลขสองยกกำลังที่มีค่าต่ำรองลงมา. ใช้เลขตัวใหม่ที่ได้ (28) ไล่ดูตามตารางว่ามีเลขในช่องไหนบ้าง ที่สามารถเอามาลบกับ 28 ได้ แล้วผลลัพธ์ออกมาไม่ติดลบ 28 ลบ 64 ไม่ได้ ดังนั้นให้เขียน 0 ไว้ใต้ช่อง 64 นั้นเพื่อให้เป็นเลขฐานสองหลักต่อไปที่อยู่ทางขวามือ ทำอย่างนี้จนกว่าจะเจอเลขที่เอามาลบกับ 28 ได้ แล้วผลลัพธ์ออกมาไม่ติดลบ


4 ลบเลขถัดไปที่สามารลบได้แล้วผลลัพธ์ออกมาไม่ติดลบ แล้วใส่ 1 ไว้ใต้ช่องของเลขนั้น. 16 สามารถนำไปลบกับ 28 ได้ แล้วผลลัพธ์ไม่ติดลบ ดังนั้น ให้เขียนเลข 1 ข้างใต้ช่องของ 16 แล้วเอา 28 ลบ 16 จะได้ 12 ต่อมา 8 สามารถนำไปลบกับ 12 ได้ โดยที่ผลลัพธ์ไม่ติดลบ ดังนั้นให้เขียนเลข 1 ไว้ใต้ช่อง 8 แล้วเอา 12 ลบ 8 จะได้ 4

5.ทำวิธีนี้ไปเรื่อยๆ จนสิ้นสุดตาราง. อย่าลืมเขียน 1 ข้างใต้ช่องตัวเลขที่นำไปลบกับผลลัพธ์ใหม่ได้ และเขียน 0 ใต้ช่องตัวเลขที่นำไปลบกับผลลัพธ์ใหม่ไม่ได้
6 การเขียนคำตอบเลขฐานสอง. คำตอบจะได้เหมือนกับตัวเลขเดิมที่เป็นเลข 1 หรือ 0 ใต้ตาราง จากซ้ายไปขวา ตามตัวอย่างแล้วคำตอบควรจะเป็น 10011100 เลขชุดนี้คือเลขฐานสองที่มีค่าเท่ากับ เลขฐานสิบ 156 หากเขียนร่วมกับตัวห้อยแสดงเลขฐาน ก็จะได้ออกมาเป็น 15610 = 100111002.

***หากใช้วิธีนี้ซ้ำๆ คุณจะจำเลขสองยกกำลังได้ ทำให้สามารถข้ามขั้นตอนที่ 1 ได้เลย****

**คำแนะนำ**
  • เครื่องคิดเลขที่ติดตั้งมากับระบบปฏิบัติการของคุณสามารถทำการแปลงเลขฐานให้คุณได้ แต่ในฐานะที่เป็นโปรแกรมเมอร์ จะดีกว่าถ้าคุณเข้าใจกระบวนการแปลงเลขฐานอย่างถ่องแท้ ตัวเลือกเมนูการแปลงเลขฐานในเครื่องคิดเลขสามารถเรียกใช้ได้โดยการไปที่เมนู “View” (“ดู”) และเลือก “Programmer” (“โปรแกรมเมอร์”)
  • การแปลงเลขฐานในทิศทางกลับกัน จากระบบเลขฐานสองเป็นฐานสิบ มักจะง่ายกว่าในขั้นเริ่มต้นเรียนรู้
  • แบบฝึกหัด ลองแปลงเลขฐานสิบ 17810, 6310 และ 810 ซึ่งมีคู่คำตอบเลขฐานสองคือ 101100102, 1111112 และ 10002 ตามลำดับ และ ลองแปลง 20910, 2510 และ 24110 ให้เป็น 110100012, 110012และ 111100012 ตามลำดับ
ที่มาและแหล่งอ้างอิง
  1.  http://www.binarymath.info
  2. http://www.inetdaemon.com/tutorials/basic_concepts/number_systems/binary/conversion.shtml
  3. http://th.wikihow.com/%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87

วิธีการ แปลงเลขฐานสิบเป็นเลขฐานสอง วิธีที่1

วิธีการ แปลงเลขฐานสิบเป็นเลขฐานสอง
ระบบเลขฐานสิบ ประกอบด้วยเลขโดดพื้นฐานที่เป็นไปได้ทั้งหมด 10 ตัว (0,1,2,3,4,5,6,7,8, และ 9) ในแต่ละหลัก ในขณะที่ระบบเลขฐานสองนั้น จะมีค่าเป็นเลข 0 หรือ 1 เท่านั้นในแต่ละหลัก[1] เนื่องจากระบบเลขฐานสองเป็นภาษาภายในระบบคอมพิวเตอร์อิเลคทรอนิกส์ โปรแกรมเมอร์มืออาชีพจึงควรเข้าใจวิธีแปลงเลขฐานสิบเป็นฐานสอง ลองมาดูขั้นตอนง่ายๆ เพื่อพิชิตการแปลงเลขฐานนี้กัน


วิธีการ 1 การหารสั้นด้วยสองแล้วเหลือเศษ
ตั้งโจทย์. ตามตัวอย่างนี้ เราจะมาลองแปลงเลขฐานสิบ 15610 ให้กลายเป็นเลขฐานสอง เขียนเลขฐานสิบเป็นตัวตั้งในเครื่องหมาย “หารยาว” แบบกลับหัว เขียนตัวหารเป็นเลขฐานที่เราอยากจะแปลงให้เป็น (ในกรณีที่เราทำอยู่ คือเขียนเลข “2” สำหรับเลขฐานสอง) ด้านนอกส่วนโค้งของเครื่องหมายหาร
  • จะเข้าใจวิธีนี้ได้ดีกว่าหากเขียนให้เห็นภาพบนกระดาษ และวิธีนี้ยังง่ายกว่าสำหรับคนที่เพิ่งหัดแปลงอีกด้วย เพราะอาศัยแค่การหารสองเท่านั้น
  • เพื่อเลี่ยงความสับสนทั้งก่อนและหลังการแปลง ให้เขียนเลขของฐานที่แปลงห้อยไว้ใต้เลขแต่ละชุด ในกรณีนี้ เลขฐานสิบจะมีเลข 10 ห้อยอยู่ ในขณะที่เลขฐานสองจะมีเลข 2 เป็นตัวห้อย



2 การหาร. เขียนคำตอบซึ่งเป็นจำนวนเต็ม (ผลลัพธ์) ไว้ใต้เครื่องหมายหารสั้น และเขียนเศษ (0 หรือ 1) ทางขวามือของตัวตั้ง [2]
  • เนื่องจากเรากำลังหารด้วยสอง ถ้าตัวตั้งเป็นเลขคู่เมื่อไหร่ เศษจะเท่ากับ 0 และถ้าตัวตั้งเป็นเลขคี่ เศษจะเท่ากับ 1


หารไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึง 0. คำนวณต่อลงมาเรื่อยๆ โดยหารผลหารใหม่ด้วยสอง และเขียนเศษไว้ทางขวาของตัวตั้ง จะหยุดก็ต่อเมื่อผลหารเป็น 0 แล้วเท่านั้น

4 เขียนเลขฐานสองชุดใหม่ที่ได้มา. เริ่มจากเขียนเศษที่อยู่ล่างสุด อ่านไล่ขึ้นไปหาบนสุด จากตัวอย่าง คุณควรจะได้ผลลัพธ์ คือ 10011100 เลขชุดนี้เป็นเลขฐานสองที่มีค่าเท่ากับเลขฐานสิบ 156 หากเขียนร่วมกับตัวห้อยเลขฐาน จะได้เป็น 15610 = 100111002
  • วิธีข้างต้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับการทำให้เลขฐานสิบกลายเป็นเลขฐานใดก็ได้ ในที่นี้ตัวหารเป็น 2 เพราะเรากำลังแปลงให้เป็นเลขฐานสอง แต่ถ้าอยากให้กลายเป็นเลขฐานอื่นๆ ให้เปลี่ยนตัวหารจาก 2 เป็นเลขของฐานที่อยากให้เป็น ตัวอย่างเช่น ถ้าอยากแปลงให้เป็นเลขฐานเก้า ให้ใช้เลข 9 เป็นตัวหารแทนเลข 2 แล้วผลที่ได้จะเป็นเลขในฐานที่ต้องการ
ที่มาและแหล่งอ้างอิง

  1.  http://www.binarymath.info
  2. http://www.inetdaemon.com/tutorials/basic_concepts/number_systems/binary/conversion.shtml
  3. http://th.wikihow.com/%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87




การนับเลข

เรื่อง  การนับเลข
 การนับเลขในระบบเลขฐานสิบ
            สมมุติเราเริ่มนับเลขจาก ศูนย์ และนับเพิ่มไปที่ละหนึ่ง เป็น หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า ถ้าเราใช้เลขหลักเดียว เราจะนับได้ไม่เกิน เก้า ซึ่งเขียนแทนด้วย ถ้ามีการนับต่อจากเก้าจะได้เป็นสิบ ซึ่งแทนด้วยเลข หนึ่ง กับ ศูนย์ (10) เราสังเกตที่หลักหน่วยเท่านั้น จากตัวเลข เมื่อนับไปถึง แล้ว จะวนซ้ำกับมาที่ เหมือนเดิม ดังตัวอย่างเช่น 
            10        11        12        13        14        15        16        17        18        19
           20        21        22        23        24        25        26        27        28        29                30
จะเห็นว่า เลขฐานสิบนั้นมีการใช้ตัวเลขคือ 0  ถึง แล้ววนซ้ำกับมาที่เดิม
การนับเลขในระบบเลขฐานสอง
            ถึงแม้ว่าในชีวิตประจำวันเราจะใช้เลขฐานสิบ ซึ่งสันนิษบานกันว่าเกิดจากที่คนเรามีสิบนิ้วและมนุษย์เริ่มเรียยรู้จากการนับนิ้วมือ แต่ในการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์นั้น ระบบเลขฐานสิบเป็นระบบที่ยุ่งยาก ระบบที่ง่ายที่สุดคือระบบเลขฐานสอง เพราะวงจรไฟฟ้ามีสองสถานะเท่านั้น คือ วงจรเปิด (มีกระแสไหลวงจรปิด (ไม่มีกระแสไหลเราอาจแทนสถานะทั้งสองด้วยตัวเลข ตัว คือ กับ ระบบนี้เรียกว่า ระบบเลขฐานสองบ เพราะมีตัวเลข ตัว (เทียบกับระบบฐานสิบ ซึ่งมีตัวเลข 0 – 9 รวม 10 ตัว)
การนับเลขในระบบเลขฐานสองในแต่ละหลัก จึงเป็นการนับ 0 – 1 แล้ววนกับมาเริ่มต้นใหม่ที่ 0
ถ้าเทียบกันเลขฐานสิบแล้ว จะพบว่าเลขฐานสองต้องใช้จำนวนหลักมากกว่าเพื่อที่จะนับในจำนวนที่เท่ากัน ทั้งนี้เพราะเลขฐานสองหลักเดียวนับได้ตั้งแต่ ถึง เท่านั้น
การเปรียบเทียบเลขฐานสิบและฐานสอง
เลขฐานสิบ
เลขฐานสอง
0
0
1
1
2
10
3
11
4
100
5
101
6
110
7
111
8
1000

วิธีเปลี่ยนจากฐานเป็นเลขฐานสองมีวิธีการดังนี้
            วิธีการหาคือ    ฐานสิบคือ เป็นฐานสองคือ 1000
           
            8 เป็นตัว ตั้ง หารด้วย จะได้เป็น       2 / 8 = 4 เศษ 0
                                                                        
จะได้เป็น คูณ เท่ากับ มีไม่เหลือ เศษ เพราะฉะนั้น เศษ คือ แต่เนื่องจากยังไม่หมดให้นำ มาหารต่อ จนกว่าจะหารไม่ได้
                                              2     /     8
                                               2    /     4          เศษ     0
                                                   2  /   2          เศษ     0
                                                           1          เศษ     0
จากตัวอย่างไม่สามารถหารต่อได้ให้นำเศษมาเรียงลำดับจากล่างคือ
1000 เป็นเลขฐานสองมีค่าเท่ากับ ในระบบเลขฐานสิบ

อ้างอิง:https://sites.google.com/site/bthreiynwichakhxmphiwtexr/kar-nab-lekh

คอมพิวเตอร์คืออะไร

คอมพิวเตอร์คืออะไร


คอมพิวเตอร์คืออะไร
     คอมพิวเตอร์ คือ อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ (electrinic device) ที่มนุษย์ใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการจัดการกับข้อมูลที่อาจเป็นได้ ทั้งตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ที่ใช้แทนความหมายในสิ่งต่าง ๆ โดยคุณสมบัติที่สำคัญของคอมพิวเตอร์คือการที่สามารถกำหนดชุดคำสั่งล่วงหน้าหรือโปรแกรมได้ (programmable) นั่นคือคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับชุดคำสั่งที่เลือกมาใช้งาน ทำให้สามารถนำคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างกว้างขวาง เช่น ใช้ในการตรวจคลื่นความถี่ของหัวใจ การฝาก - ถอนเงินในธนาคาร การตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ เป็นต้น ข้อดีของคอมพิวเตอร์ คือ เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธภาพ มีความถูกต้อง และมีความรวดเร็ว

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นงานชนิดใดก็ตาม เครื่องคอมพิวเตอร์จะมีวงจรการทำงานพื้นฐาน 4 อย่าง (IPOS cycle) คือ
  1. รับข้อมูล (Input) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการรับข้อมูลจากหน่วยรับข้อมูล (input unit) เช่น คีบอร์ด หรือ เมาส์
  2. ประมวลผล (Processing) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการประมวลผลกับข้อมูล เพื่อแปลงให้อยู่ในรูปอื่นตามที่ต้องการ
  3. แสดงผล (Output) เครื่องคอมพิวเตอร์จะให้ผลลัพธ์จากการประมวลผลออกมายังหน่วยแสดงผลลัพธ์ (output unit) เช่น เครื่องพิมพ์ หรือจอภาพ
  4. เก็บข้อมูล (Storage) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการเก็บผลลัพธ์จากการประมวลผลไว้ในหน่วยเก็บข้อมูล เพื่อให้สามารถนำมาใช้ใหม่ได้ในอนาคต
อ้างอิง: https://sites.google.com/site/wiparat0001/bth-thi-hnung

รู้จักกันหน่อยน๊า...Matoom

ชื่อ  นางสาวฐิติรัตน์  โมทะจิตร ชื่อเล่น มะตูม อายุ 27 ปี  การศึกษา ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  คณะ การบัญชีและการจัดการ สาขาวิ...